พม่า ฉายา ฤาษีหลับแห่งเอเชีย… เป็นอีกประเทศหนึ่งเพื่อนบ้านของไทย อยู่ใกล้และน่าสนใจมว๊ากกกกกกกกกกกกกกก เพราะมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวยังคงสวยงาม เหมาะกับการไปเที่ยวคนเดียวได้ สบายๆ…
ทริปนี้เจลเดินทางเริ่มต้นจากเมืองย่างกุ้งค่ะ ตอนนี้สำหรับไปเที่ยว นักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาเที่ยวไม่เกิน 14 วัน ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า และต้องมาโดยทางอากาศยานนานาชาติเท่านั้นค่ะ ส่วนใครมาทางบก เช่นทางแม่สาย หรือทางเมืองกาญฯ ยังต้องขอวีซ่าอยู่นะคะ
เจลใช้เวลาเดินทางคนเดียวทั้งสิ้น 7 วันค่ะ เริ่มจากหาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจคร่าวๆก่อนในอินเตอร์เน็ต วางแผนการเดินทาง หาตั๋วเครื่องบิน เตรียมเงินดอลลาห์(แลกเงินที่ร้านซุปเปอร์ริช และไปแลกเงินจ๊าด สกุลเงินพม่าที่สนามบินย่างกุ้ง)
ย่างกุ้ง (Yangon)
ในย่างกุ้งมีสถานที่ๆน่าสนใจ เริ่มตันจากกลางเมือง คือ City Hall หรือศาลาว่าการอยู่ข้างๆกับเจดีย์สุเลพญา (อารมณ์ประมาณอนุเสารีย์ชัยบ้านเรา) ที่ต้องไปหารถเมล์ต่อที่นั่น
เราสามารถนั่งรถเมล์สาย 43 ข้างๆ City Hall ไปที่เจดีย์ชเวดากองได้ค่ะ ราคาแค่ 200 จ๊าด หรือ 6 บาทเท่านั้น ไม่ไกลจากนั่นเราสามารถไปไชน่าทาวน์ของย่างกุ้งได้ ในช่วงเช้าจะเป็นตลาดสด และช่วงเย็นจะขายอาหารทะเล และ Hangout ค่ะ
City Hall เมืองย่างกุ้ง
สถาปัตยกรรมต่างๆที่ถูกแพร่จากอังกฤษ เมื่อครั้งยังเป็นอาณานิคมอยู่ สิ่งปลูกสร้าง อาคาร ตึกยังคงความงดงาม โดยเฉพาะในส่วนของ City Hall นี้ค่ะ ใกล้ๆกันเป็นเจดีย์สุเลพญา และสวนกลางเมือง
เจดีย์สุเลพญา ถนนทุกสายมุ่งสู่ที่นี่
ว่ากันว่าเจดีย์สุเลมีนั้นมีอายุกว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของกรุงย่างกุ้ง เมื่อประมาณ 200 ปีที่ผ่านมานั้นพระเจดีย์ถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำ ชื่อของเจดีย์หมายถึง ‘พระวิหารอันเป็นที่ประดิษฐานของพระเกศาธาตุ ซึ่งเชื่อกันว่าภายในมีเส้นพระเกศาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ที่นั่น และหากใครอยากนั่งรถเมล์ในย่างกุ้ง ต้องมาขึ้นที่นี่ อารมณ์เหมือนอนุสาวรีย์ชัยฯบ้านเราค่ะ
เจดีย์ชเวดากอง
จากเจดีย์สุเลพญา เราสามารถนั่งรถเมล์ไปยังเจดีย์ชเวดากองได้ ซึ่งขอให้ไปถูกสาย เราจะเจอกับเจดีย์ใหญ่โต สีทองอร่ามกลางเมือง ซึ่งเจดีย์ชเวดากองนั้น เป็นเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง สีทองอร่ามตา ยอดประดับเพชร 76 กระรัต องค์เจดีย์หุ้มทองคำกว่า 1,100 กิโลกรัม ตั้งอยู่บนเนินเขาเสนคุตตะร
ถ้ามีเวลาให้อยู่ที่เจดีย์ชเวดากองถึงตอนกลางคืนนะคะ เปิดแสงไฟกระทบองค์พระ สวยมากๆเลยค่ะ
ตลาดเช้าเมืองย่างกุ้ง ที่ไชน่าทาวน์
หากเรายังพักอาศัยในย่างกุ้ง แนะนำให้ตื่นเช้าๆหน่อย ไปเที่ยวย่านไชน่าทาวน์เสียนิด จะมองเห็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของ และผู้คนมากมาย
ในตอนเช้าจะเป็นตลาดสดที่มี
ส่วนตอนเย็น จะเป็นส่วนของร้านอาหารประเ
หากต้องการไปไจท์ทิโย หรือพระธาตุอินทร์แขวน ก็สามารถนั่งรถบัสจากสถานีอองมินกะลาไปได้ นั่งรถประมาณ 4-6 ชั่วโมง แวะนอนที่นั่นหนึ่งคืนและขึ้นไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวนได้ค่ะ
เมืองไจโท (Kyaikto)
ไจท์ทิโย หรือพระธาตุอินทร์แขวน
เราสามารถนั่งรถจากอินทร์แขวน ไปต่อที่หงสาวดีหรือที่ชาวพม่าเรียกพะโค(Bago) หรือหากเราไม่ต้องการไปพระธาตุอินทร์แขวน เราสามารถนั่งรถจากย่างกุ้งไปพุกาม(Bagan) ต่อไปเลยค่ะ นั่งรถประมาณ 8-10 ชั่วโมงค่ะ
ไจทิโย หรือที่ชาวไทยรู้จักกันในชื่อว่า พระธาตุอินทร์แขวน
ลักษณะเด่นของพระธาตุอินทร์
และตามความเชื่อของชาวล้านนา เชื่อว่าเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีจอ (ปีหมา) ที่คนเกิดปีนี้ต้องไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต
พุกาม (Bagan)
เจลนั่งรถขึ้นเหนือไปเมืองพุกาม(Bagan) ซึ่งถือได้ว่าเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ของพม่าที่ติดอันดับโลก ไปลงที่สถานีขนส่งใกล้ๆเนียงอู(Nyang U) และสามารถไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อชมทะเลเจดีย์ต่อได้ สำหรับสถานที่นี่เจลว่าสวยงามมากๆเลยค่ะ ต้องไปชม ห้ามพลาดเลย
พุกามเคยเป็นอาณาจักรและราช
พุกาม มีฉายานามว่า “คลื่นแห่งทะเลเจดีย์” หรือ “ดินแดนเจดีย์สี่พันองค์” ที่แม้ปัจจุบันลดลงเกือบครึ่งเหลือเพียงสองพันองค์นิดๆ
เราชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จ จากนั้นสายๆเราก็เข้าไปในเนียงอู(Nyang U) เป็นอารมณ์เมืองเก่าหรืออำเภอเก่าของที่นั่น เพื่อไปชมตลาดเช้า หาของกิน นั่งกินปาท่องโก๋และชานมแบบพม่า เจลเช่ารถ E-Bike ซึ่งเป็นรถของโรงแรมที่เจลนอนไปที่นั่น และขี่รอบๆเมืองพุกามค่ะ
ตลาดเช้าเนียงอู
บรรยากาศตลาดที่เนียงอู พุกามนั้น จะมีเอกลักษณ์ตรงที่มีขายของเยอะมากกกกกกกกก ทั้งของสด ของแห้ง ของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว สามารถมาเที่ยวต่อรองได้ที่นี่ ทั้งของโบราณ ของมือสอง ของแต่งบ้าน ร้านหนังสือ อาหารสด อาหารแห้ง กุ้ง หอย ปู ปลา หมู ซึ่งอาหารแม่น้ำ เช่น กุ้ง ปลา จะสดและตัวใหญ่มากๆ
ปาท่องโก๋ขนาดยักษ์และชานมแ
ที่พุกาม เราจะพบกับเจดีย์มากมาย และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างพระเจดีย์ชเวสิกอง 1 ใน 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพม่าที่ต้องไปสักการะ เจดีย์ฉัตรตั้ง พระอึดอัด และอีกมากมาย
หรือถ้าคุณอยาก Slow-Life สามารถเช่ารถม้าเพื่อชมรอบๆเมืองได้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ
เจดีย์ชเวสิกอง, เมืองพุกาม
“ชเวซิกอง” แปลว่า “เจดีย์ที่ตั้งอยู่บนพื้นทราย” เป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้าอโรรธามหาราชพระองค์แรก ผู้รวบรวมชนชาติพม่าเป็นปึกแผ่นได้เป็นครั้งแรกในอาณาจักรพุกามเมื่อ 900 ปีเศษมาแล้ว
ภายหลังทรงยกทัพไปตีมอญที่อาณาจักรสุธรรมวดี ได้แล้วทรงกวาดต้อนชาวมอญ ตลอดจนช่างฝีมือ นักปราชญ์ และ ราชบัณฑิตมาที่เมืองพุกาม ทำให้พม่าได้รับอิทธิพงศิลปวัฒนธรรมจากมอญมาโดยไม่รู้ตัว ดังเช่น รูปร่างของเจดีย์ชเวซิกอง ก็มีรูปทรงระฆังคว่ำแบบมอญ ก่อนที่จะมีพุทธศิลป์ สกุลช่างพุกามเกิดขึ้น
วิหารสัพพัญญู (Thatpyinnyu)
เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก
วิหารสัพพัญญูมีทั้งหมด 5 ชั้น เจดีย์ 2 ชั้นแรกเคยเป็นที่พำนักของพ
รถม้าเมืองพุกาม
มัณฑะเลย์(Mandalay)
จากนั้นเรานอนที่นั่น 1 คืน ตอนเช้าเราก็หารถไปที่มัณฑะเลย์(Mandalay) นั่งรถประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึงค่ะ ที่นั่นเป็นเมืองใหญ่พอๆกับย่างกุ้งค่ะ มีความเจริญ และถนนหนทางจะเป็นแบบบล็อกๆ เพราะวางผังเมืองโดยเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษ มีพระราชวังมัณฑะเลย์ตั้งอยู่กลางเมือง มีตำหนักไม้สักชเวสันดอ ตำหนักไม้จากสมัยที่พม่ายังคงมีกษัตริย์เหลืออยู่แห่งเดียวของพม่า หรือจะแพลนอีกวันตอนเช้าไปไหว้พระมหามัยมุนี ทำพิธีล้างหน้า พอบ่ายๆไปแถวเมืองอมรปุระ ไปชมสะพานอูเบ็ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก ที่นั่น เจลแนะนำให้มาช่วงเช้ามากๆหรือช่วงเย็นไปเลย เพราะแสงพระอาทิตย์จะสวยมากๆเวลานั้น และถ้าหากข้ามสะพานไป เราจะเจอกับวัดโยเดียหรือวันอยุธยา ที่ว่ากันว่าเป็นสถานที่ๆต้อนเชลยศึกชาวอยุธยามาไว้ที่นั่น สืบวงศ์มาเป็นลูกหลานชาวพม่าค่ะ
พระราชวังมัณฑะเลย์
พระราชวังมัณฑะเลย์ (မန္တလေး နန်းတော်) เป็นพระราชวังในประเทศพม่า และเป็นพระราชวังสุดท้ายแห่
ตำหนักไม้สักชเวสันดอ
วิหารที่สร้างด้วยไม้สักทอง
พระมหามัยมุนี, เมืองมัณฑะเลย์
เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองข
คำว่า มหามัยมุนี แปลว่า “ผู้รู้อันประเสริฐ” (The Great Sage) ชาวพม่าจะเรียกว่า มหาเมียะมุนี (မဟာမြတ်မုနိ ရုပ်ရှင်တော်မြတ်ကြီး) เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์ อดีตราชธานีของพม่าในยุคราชวงศ์คองบอง
ก่อนสร้าง กษัตริย์ผู้สร้างทรงพระสุบิ
สะพานไม้สักอูเบ็ง
สะพานอูเบ็ง (ဦးပိန်တံတား) เป็นสะพานที่ทำจากไม้ที่ยาว
สะพานอูเบ็ง ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมาน มุ่งตรงไปยังเจดีย์เจ๊าต่อซึ่งอยู่อีกฟากของทะเลสาบ ชื่ออูเบ็งนั้นเป็นชื่อของขุนนางที่มีนามว่า “อูเบียน” พระเจ้าปดุงโปรดฯให้มาทำหน้าที่เป็นแม่กองงานสร้างสะพาน ซึ่งตั้งอยู่ที่อมรปุระก่อนจะเข้าถึงตัวเมืองมัณฑะเลย์
สะพานอูเบ็งตอนพระอาทิตย์ตก
วัดมหากันดายงค์
ไม่ไกลจากสะพานไม้อูเบ็ง เราสามารถเข้าไปในที่วิทยาลัยสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่าค่ะ ชื่อวัดมหากันดายงค์(แนะนำให้ไปตอนเช้ามากๆ จะมีตักบาตรพระ) จากนั้นก็กลับมาในเมืองมัณฑะเลย์ หากมีเวลาเราสามารถขึ้นมัณฑะเลย์ฮิลล์ชมรอบเมือง หรือใกล้ๆกันจะมีวัดกุโสด่อ เป็นวัดที่พระเจ้ามินดง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 ใกล้ๆกันเป็นวิหารชเวนันดอร์ พระตำหนักไม้สักที่ยังหลงเหลืออยู่ที่สุดท้าย ก่อนที่จะถูกอังกฤษเผาพระราชวังมัณฑะเลย์ไป
จากนั้นเจลก็หารถช่วงบ่ายไปเที่ยวต่อที่เมืองพินอูลวิน หรือชาวพม่าเรียกกันว่าเมืองเมเมียว เป็นเมืองตากอากาศของชาวพม่า และขุนนางกับทหารชั้นสูงชาวอังกฤษในสมัยก่อน
พินอูลวิน (Pyin Oo Lwin)
เมืองพินอูลวิน หรือ เมเมียว(แปลว่า เมืองของนายพลเม) .. เมืองโรแมนติคมาก… กำลังงงว่านี่อยู่ประเทศไหน
เมืองนี้เหมือนอยู่อินเดียอ่ะ โดนแซว โดนผู้ชายพูด เฮลโหล ตลอดทางงงง มีผู้ชายมานั่งคุยด้วยเว้ย งงมาก แต่ก็มิได้นำพา น้องไม่ชอบ เลือกได้อ่ะ 55+ .. กลับมาที่เมืองนี้ คือมันเป็นเมืองที่แบบเหมือ
สำหรับเมืองนี้ คือ เมืองนี้ถูกสร้างให้เป็นเมื
สำหรับคนพม่าแล้วนั้น คนที่เรียน เก่งสุดจะได้สิทธิ์เข้าเรีย
จึงไม่ผิดหรอกตามคำบอกเล่าที่ว่า นายทหารชั้นยศใหญ่โตระดับผู้บัญชาการ หรือผู้นำประเทศของเมียนมา ก็ล้วนจบการศึกษาจากโรงเรีย
สรุปคือ ถ้าอยากได้สามีเป็นทหารพม่า
เมืองนี้มีความน่าสนใจคือ จะมีอากาศเย็นๆสบายๆตลอดทั้งปีค่ะ มีบ้านเรือนที่เป็นแบบอังกฤษ สไตล์โคโลเนียลอยู่เยอะมากๆ สวยงามมากๆ เดินเพลินเลยค่ะ อีกทั้งยังมีรถม้าที่ต่างจากรถม้าเมืองอื่นๆคือเป็นรถม้าแบบในเทพนิยายคือ มีหลังคาคลุมหลัง น่ารักมากๆ ไม่ไกลจากในเมือง เจลปั่นจักรยานไปที่สวนกันดอจีของเมืองนี้ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีสวนดอกไม้ ร่มรื่น ข้างๆกันเป็น National Landmark Garden เป็นสวนที่เหมือนเมืองจำลองสถานที่ๆต่างที่เป็น Landmark ของพม่าเอาไว้ น่าสนใจมากๆค่ะ สามารถเดินไปดูได้ทั่วเลยค่ะ
สวนสาธารณะเมืองพินอูลวิน
บ่ายๆเจลแวะไปเมืองจำลองของพม่า เมืองพินอูลวิน ซึ่งเป็นสถานที่ๆรวบรวมสถานที่สำคัญของพม่าเอาไว้ทั้งหมด อารมณ์คล้ายๆเมืองจำลอง ที่พัทยาบ้านเราเลยค่ะ แต่ถ้าไปช่วงหน้าหนาว คือมันดีมากๆเลย อากาศเย็นสบาย
National Landmark Garden
เรานอนที่นั่นกันอีก 1 คืนตอนเช้าเจลไปนั่งรถไฟสาย พินอูลวิน – ล่าเสี้ยว แต่ไปหยุดที่สถานที่นังเป็ง(Nang Peng) ค่ะ ไปดูสะพานก๊กเต็ก เพื่อไปดูสะพานรถไฟที่สร้างจากไม้ที่สูงที่สุดในอาเซียนกัน และสูงเป็นอันดับสองของโลก อยู่ในรัฐฉาน วิวสวย อากาศดี เย็นสบายมากกกก ระหว่างทางเราจะพบกับทุ่งนา และบ้านเรือนแบบชนบทของชาวพม่า อีกทั้งวีถีชีวิตของคนพม่าแบบเรียลๆ ทั้งบรรยากาศในรถไฟ อากาศดีๆเย็นสบายตลอดการนั่งรถไฟเลยค่ะ
การนั่งรถไฟจะกินเวลาค่อนข้างมากคือใช้เวลาไปกลับทั้งวัน เพราะต้องเข้าไปในรัฐฉาน แต่เจลว่ามันคุ้มมากๆเพราะเราจะได้เจอกับสิ่งแปลกใหม่ตลอดทาง ทั้งผู้คน และวิถีชีวิตของชาวพม่าแบบน่ารักๆค่ะ ใครมีเวลาสามารถลงที่เมืองสีป่อ รัฐฉานต่อไปได้ค่ะ
จากนั้นเรานั่งรถจากพินอูลวินกลับมาย่างกุ้งอีกรอบ หากใครมีเวลามากกว่านี้ สามารถแวะที่เมืองอินเลได้ค่ะ
ที่ย่างกุ้ง ยังมีสถานที่ๆน่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ตลาดโบจ๊อกอองซาน ซึ่งเป็นสถานที่ขายสินค้าพื้นเมืองของชาวย่างกุ้ง หรือมีเวลาว่างมากๆจะไปนั่งรถไฟสาย Circle รอบๆเมืองย่างกุ้ง ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง แวะไปที่สวนสาธารณะกันดอจีของย่างกุ้ง ชมสวนและรับประทานอาหารที่ภัตตาคารการะเวก ไหว้พระที่พระนอนตาหวาน หรือไหว้พระพุทธรูปหินอ่อนปางมารวิชัยที่วัดงาทัตจี
สถานีรถไฟย่างกุ้ง
นั่งรถไฟรอบเมืองย่างกุ้งที่สถานีรถไฟย่างกุ้ง เราสามารถนั่งรถไฟประมาณ 3-4 ชั่วโมงเที่ยวรอบเมืองย่างกุ้ง ได้ในราคา 200 จ๊าดหรือประมาณ 6 บาท
ตลอดการเดินทาง เราสามารถเห็นวิว สถานที่ ผู้คน วิถึชีวิตต่างๆที่แปลกตาในร
สวนสาธารณะกันดอจี กลางเมืองย่างกุ้ง
พระนอนตาหวาน ที่วัดเจาทัตจี เมืองย่างกุ้ง
เป็นพระนอนองค์ใหญ่ที่สุดของพม่า มีความยาว 65 เมตร นอนตะแคงขวา และถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามที่สุดในพม่า พระพักตร์ได้รูป ทาสีขาว ขนตางอนยาว ดวงตาเป็นแก้ว เปลือกตาสีฟ้า แต้มสีแดงที่พระโอษฐ์ จีวรพริ้วไหวราวกับของจริง จึงได้ชื่อว่าพระตาหวาน
พระพุทธรูปหินอ่อน ปางมารวิชัย สวมเครื่องประดับโลหะที่วัดหงาทัตจี
“พระพุทธรูปทรงเครื่ององค์ใ
ท้ายสุดเราไปขอพรกับเทพทันใจ ซึ่งเป็นนัตหรือวิญญาณที่ชาวพม่านับถือมากๆ ว่ากันว่าถ้ามาขอพรจะได้สมความทันใจในเร็ววัน และไปกระซิบขอพรกับเจ้าแม่กระซิบที่อยู่ใกล้ๆกันในวัดโบตะทาวน์ เมืองย่างกุ้งค่ะ
เทพทันใจ ที่เจดีย์โบตะทาวน์ เมืองย่างกุ้ง
โบโบยีนัต (เทพทันใจ) เป็นเทพที่คอยพิทักษ์ปกป้อง
จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกั
เทพกระซิบ ที่เจดีย์โบตะทาวน์ เมืองย่างกุ้ง
ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อ
โดยการบูชาเทพกระซิบนั้น ทำได้ด้วยการบูชาน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ และไปกระซิบขอพรข้างหูท่านโ
————————–
สำหรับใครที่เคยไปมาแล้ว อยากแบ่งปันประสบการณ์ สามารถมาพูดคุย หรือสอบถามกันได้นะคะ
Leave a Review